การเลือกตั้ง
(Election)
การเลือกตั้งของประชาชนในสหรัฐอเมริกา
การลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง เป็นการแสดงออกของประชาชนในการมีส่วนร่วมทางการเมืองโดยการเลือกผู้นำของตน กฎหมายอเมริกาให้สิทธิแก่คนอเมริกาในการออกเสียงเลือกตั้ง ตัวอย่างเช่น ในปีค.ศ. 1978 มีผู้ไปออกเสียงเลือกตั้งเพียง1 ใน 3 ของผู้มีสิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาสูงและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเท่านั้น
รัฐบาลสหรัฐอเมริกาได้ขยายสิทธิในการเลือกตั้งแก่ประชาชนชาวอเมริกา ซึ่งจะเห็นได้จากการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งที่ 15 ที่ให้สิทธิการเลือกตั้งแก่คนผิวดำ การแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งที่ 16 ให้สิทธิแกสตรีในการเลือกตั้ง การแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งที่ 26 ให้สิทธิแก่ประชาชนที่อายุ 18 ปีขึ้นไปมีสิทธิในการออกเสียงเลือกตั้ง แสดงว่ารัฐบาลสหรัฐอเมริกาสนับสนุนให้ประชาชนมีส่วนร่วมทางการเมืองกว้างขวางมากขึ้น ประชาชนที่มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งต้องไปลงทะเบียนก่อนถึงมีสิทธิลงคะแนนเสียงได้ การลงทะเบียนคือการลงชื่อในบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้ง โดยผู้ลงทะเบียนต้องมีคุณสมบัติตามที่กฎหมายกำหนด
1. คุณสมบัติของประชาชนที่มีสิทธิในการออกเสียงเลือกตั้ง
1) เป็นพลเมืองหรือ สัญชาติอเมริกันเท่านั้น
2) มีอายุ 18 ปีบริบูรณ์
3) อยู่ในท้องถิ่นระยะเวลาพอสมควรในปี ค.ศ. 1970 สภาคองเกรสได้บัญญัติกฎหมายทีที่เกี่ยวกับการออกเสียงเลือกตั้ง คือให้ผู้มีสิทธิออกเสียงต้องมีถิ่นที่อยู่อาศัยในเขตเลือกตั้งนั้น 30 วัน ต่อมาปี ค.ศ. 1973 ศาลสูงแก้เป็น50 วัน
4) ต้องไปลงทะเบียนแสดงเจตจำนงออกเสียงเลือกตั้งภายในเวลาที่แต่ละมลรัฐกำหนด ส่วนใหญ่คือ 54 วัน ก่อนวันเลือกตั้ง ณ หน่วยเลือกตั้งของตน
5) แต่ละมลรัฐจะกำหนดคุณสมบัติผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งเป็นของตัวเอง
2. ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อผู้ใช้สิทธิเลือกตั้ง
1) อายุ อายุมากขึ้นมีแนวโน้มมีส่วนร่วมทางการเมืองมากขึ้น
2) การศึกษา โดยทั่วไปผู้มีการศึกษาสูงจะมีแนวโน้มไปใช้สิทธิเลือกตั้งมากกว่า
3) สถานะทางสังคมและรายได้ ปัจจัยเกี่ยวกับสถานะทางสังคมโดยเฉพาะอย่างยิ่งเชื้อชาติมีส่วนสำคัญในการตัดสินใจไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ความแตกต่างของรายได้ของประชาชนผู้ที่มีรายได้สูงไปใช้สิทธิเลือกตั้งมากกว่าผู้มีรายได้น้อย
4) การแข่งขันระหว่างพรรคการเมือง 2 พรรค มลรัฐที่มีการแข่งขันสูง มีอัตราการใช้สิทธิเลือกตั้งสูง โดยส่วนใหญ่ที่ผ่านมาพรรครีพับลิกันได้คะแนนสูงกว่าพรรคเดโมแครท
3. ปัจจัยกำหนดทางเลือกของผู้ใช้สิทธิเลือกตั้ง
1.ปัจจัยทางด้านสังคม
1) การศึกษา ผู้มีการศึกษาสูงจะลงคะแนนเสียงให้กับพรรครีพับลิกัน ผู้มีการศึกษาน้อยจะลงคะแนนเสียงให้กับพรรคเดโมแครท
2) ชนชั้นทางสังคม รายได้ และอาชีพ กลุ่มชนชันสูงและชั้นกลางมักจะลงคะแนนเสียงให้กับพรรครีพับลิกัน กลุ่มคนชั้นล่างลงคะแนนเสียงให้กับพรรคเดโมแครท นักวิชาการ นักธุรกิจและผู้มีรายได้สูงจะลงคะแนนเสียงให้กับพรรครีพับลิกันมากกว่าพรรคเดโมแครท
3) ศาสนา ผู้ที่นับถือศาสนาคริสต์นิกายโปรแตสแตนท์จะลงคะแนนเสียงให้กับพรรครีพับลิกัน ส่วนผู้ที่นับถือศาสนานิกายคาทอลิกลงคะแนนเสียงให้กับพรรคเดโมแครท
4) เชื้อชาติ ผู้ที่มีเชื้อชาติไอริช สลาฟ โปล และอิตาเลียน มีแนวโน้มออกเสียงให้พรรคเดโมแครท ส่วนพวกเชื้อชาติแองดกลแวกซอนและนอร์ท ยูโรเปียนมีแนวโน้มออกเสียงให้พรรครีพับลิกัน
5) เพศ การลงคะแนนเสียงระหว่างเพศเริ่มมีความแตกต่างขึ้นอยู่กับภาพลักษณ์ของพรรค และประเด็นการหาเสียง รวมทั้งความคิดทางการเมืองของเพศหญิงและชาย
6) อายุ ปีค.ศ. 1960 ผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งที่มีอายุน้อยส่วนมากจะลงคะแนนเสียงให้กับพรรคเดโมแครท ในช่วงปี ค.ศ. 1984การเลือกตั้งประธานาธิบดีเรแกน ผู้ออกเสียงอายุต่ำกว่า 30 ปี ได้ลงคะแนนให้กับประธานาธิบดีเรแกนสูงถึงร้อยละ 60
2.ปัจจัยทางด้านจิตวิทยา
1) ความผูกผันกับพรรคการเมือง ช่วงปลายปี ค.ศ. 1930 ชาวอเมริกันมักนิยมพรรคเดโมแครทความผูกผันนี้มาจาก ครอบครัว เพื่อนๆ นอกจากครอบครัวแล้วขึ้นอยู่กับการตัดสินใจและการหาข้อเท็จจริงมาสนับสนุนพรรคที่ตัวเองชอบ
2) ความเข้าใจในตัวผู้สมัคร ภาพลักษณ์ของผู้สมัครมีความสำคัญต่อการตัดสินใจลงคะแนนเสียงของผู้ใช้สิทธิลงคะแนนเสียงเช่นกัน
3) ประเด็นการหาเสียง ผู้สมัครรับเลือกตั้งต้องตั้งประเด็นการหาเสียงที่ตรงใจกับผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งเพื่อให้รับการสนับสนุน
ถ้าประเทศไทย มีระบบการเลือกตั้งที่น่าสนใจแบบนี้ก็น่าจะดีนะครับ
ตอบลบเหนื่อยเหลือเกิน ที่ ต้องไปเลือกตั้งแต่ละที
เพราะ ประเทศ เรา ไม่ได้ มีการชักจูง หรือ โฆษณา ที่ ทำให้ สนใจเลย
แถมนักการเมืองไทย ก็ยังเน้นนโยบายฝันเฟื่องเหมือนเดิม
การเลือกตั้งแบบนี้เป็นไปได้ยากเพราะต้องดูที่จำนวนประชากรเป็นหลัก เพราะจะได้ไม่ต้องเสียทั้งเวลาและงบประมาณ อย่างเช่นในอเมริกามีประชากรประมาณ 204 ล้านคน ซึ่งจำเป็นต้องให้ประชาชนบอกว่าจะใช้สิทธิใช้เสียงหรือไม่? จะลงให้พรรคไหนเป็นสำคัญ เป็นต้นว่าเพื่อการประหยัดงบประมาณทั้งของรัฐบาลกลางและรัฐบาลมลรัฐอีกด้วย
ตอบลบขอบคุณค่ะสำหรับข้อมูล
ตอบลบเนื้อหาชัดเจนดีคร่า
ตอบลบเข้าใจง่ายดี
การเลือกตั้งของอเมริกา ต้องไปลงทะเบียนแสดงเจตจำนงออกเสียงเลือกตั้ง อเมริกาคงมีการปลูกฝัง การเลือกตั้งที่ดีให้กับประชาชน ไม่อย่างนั้น คงมีคนไปลงทะเบียนน้อย
ตอบลบคุณสมบัติของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง
ตอบลบบางอย่างก็คล้ายคลึงกับประเทศไทย
แต่คุณภาพของประชากรอาจไม่คล้ายกันเลย
เมื่อไรการเลือกตั้งบ้านเราจะใสบริสุทธิ์สักที
specific:::[touch]
คนอเมริกาไม่ไปออกเสียงเลือกตั้ง ต้องรับโทษอะไรบ้าง
ตอบลบSLOTXO เกมใหม่ปัจจุบันปี 2023 เเนะนำเกมประสิทธิภาพสูงอัพเดทใหม่ๆมีเกมส์ให้เลือกเล่นมากยิ่งกว่า 200 เกมส์ แต่ละเกมมีต้นแบบแล้วก็อัตราที่สูงเเตกแตกต่างกัน ค้ำประกันจากผู้เล่นจริง เเนวโน้มของเกม pg slot หมายถึงล้ำยุค เข้าเล่นง่ายได้เร็ว
ตอบลบ