วันศุกร์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2552

การใช้สิทธิเลือกตั้ง


การเลือกตั้ง

(Election)


การใช้สิทธิเลือกตั้ง (Ballot)

การลงทะเบียนเลือกตั้ง มลรัฐส่วนมากมีทะเบียนเลือกตั้งของประชาชนไว้เรียบร้อย ประชาชนซึ่งจะลงทะเบียนเลือกจะต้องออกเสียงในการเลือกตั้งทั่วไปทุก 2ปี ในอดีตการเลือกตั้งทั่วไปเป็นแบบเปิดเผย (Open Ballot) แต่ภายหลังสหรัฐอเมริกาได้ปรับปรุงให้การออกเสียงเป็นแบบลับ หรือที่เรียกว่า “Australian Ballot”

1.ประเภทของบัตรลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง
บัตรลงคะแนนเสียงเลือกตั้งที่ใช้ในสหรัฐอเมริกาสำหรับการเลือกตั้งมี 2 ประเภท คือ
1)บัตรเลือกตั้งแบบคอลัมน์ (The Office-Column Ballot) หรือบัตรเลือกตั้งแบบ
แมสซาจูเซทส์ (Massachusetts Ballot)
บัตรเลือกตั้งแบบนี้หมายถึงการใส่ชื่อของผู้สมัครแข่งขันทั้งหมดในช่องรายชื่อของบัตรเลือกตั้งโดยการเรียงตามลำดับตามแนวตั้ง (Column) ซึ่งเป็นเสมือนการบังคับให้ประชาชนเลือกตัวบุคคลมากกว่าเลือกพรรค
2)บัตรเลือกตั้งแบบพรรค-คอลัมน์ (The Party-column Ballot) หรือบัตรเลือกตั้ง
แบบอินเดียน่า (Indiana Ballot)
บัตรเลือกตั้งแบบนี้นิยมใช้กันอย่างกว้างขวางในสหรัฐอเมริกา โดยจะพิมพ์รายชื่อของผู้เข้าชิงตำแหน่งของแต่ละพรรคในบัญชีแนวตั้ง (Column) หรือ “pull one lever” ซึ่งเท่ากับผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งได้ลงคะแนนให้แก่รายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งทั้งคอลัมน์โดยอัตโนมัติ บัตรเลือกตั้งนี้เป็นการกระตุ้นให้ออกเสียงเลือกพรรคโดยตรง (Straight-ticket voting)

2.บัตรลงคะแนนเสียงเลือกตั้งแบบยาวหรือบัตรลงคะแนนเสียงแบบสั้น

บัตรลงคะแนนเสียงทั้ง 2 ประเภทดังกล่าวข้างต้นสามารถแบ่งออกเป็นบัตรลงคะแนนเสียงแบบยาว (Long Ballot) และบัตรลงคะแนนเสียงแบบสั้น (Short Ballot) บัตรลงคะแนนเสียงแบบยาวบางครั้งรียกว่า “Bedsheet Ballot” หรือ “Jungle Ballot” บัตรลงคะแนนเสียงแบบยาวจะมีรายชื่อของผู้สมัครรับเลือกตั้ง ซึ่งโดยทั่วไปในหลายๆมลรัฐและในหลายท้องถิ่นมีเรื่องที่ต้องเพิ่มเติมลงไปมาก ส่วนบัตรลงคะแนนเสียงแบบสั้นมีเรื่องไม่มาก ในการเลือกตั้งระดับชาติบัตรลงคะแนนเสยงแบบสั้นใช้ออกเสียงเพื่อเลือกประธานาธิบดี รองประธานาธิบดี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกสภาสูง แต่บัตรลงคะแนนแบบสั้นนี้ก็ใช้ในการเลือกตั้งของมลรัฐด้วย นักวิชาการมองเห็นว่าบัตรลงคะแนนเสียงแบบยาวของบัตรจะทำให้ผู้ออกเสียงละเลยไม่ออกเสียงเลือกผู้สมัครรับเลือกตั้งในลำดับท้ายๆ เนื่องจากคุณสมบัติของผู้สมัครไม่ได้ หรืออาจจะเลือกแบบเดา เป็นต้น


3 ความคิดเห็น:

  1. ในกรณีบัตรเลือกตั้งนี้ ที่เคยเห็นในไทยจะมีเพียงแบบที่ 2 เท่านั้นอาจจะเป็นเพราะความสะดวกรวดเร็วในการผลิด ซึ่งไม่สิ้นเปลืองงบประมาณมากนัก และยังสามารถรวบรัดในการลงคะแนนเสียงอีกด้วย
    บัตรลงคะแนนเสียงทั้ง 2 แบบนั้นถือเป็นแม่แบบอย่างหนึ่งและคาดว่าในประเทศประชาธิปไตยส่วนใหญ่มักจะใช้ 2 แบบนี้เป็นแม่แบบในการออกแบบและปรับปรุงต่อไป

    ตอบลบ
  2. ขอบคุณมากค่ะสำหรับข้อมูล

    ตอบลบ
  3. ไม่ระบุชื่อวันพุธ, มกราคม 28, 2552

    เนื้อหาน้อยไปหน่อยอ่า


    แต่ก็เข้าใจง่ายดี

    ตอบลบ